top of page

ประโยชน์ของแอปเปิ้ลแต่ละสี




แอปเปิ้ลสีเขียว หากต้องการลดน้ำหนัก แอปเปิ้ลทุกๆชนิดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผลไม้ที่ส่งผลดีมากๆต่อการลดน้ำหนักทั้งสิ้น เพราะมีสารที่ช่วยลดการอยากอาหารลง มีไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำช่วยลดระดับน้ำตาลในเม็ดเลือด แต่แอปเปิ้ลสีที่เหมาะสมที่สุดในการลดน้ำหนักคือสีเขียว เพราะเป็นชนิดที่น้ำตาลน้อย ให้พลังงานน้อยที่สุดในบรรดาแอปเปิ้ลทั้งหมด รับประทานได้มากแบบไม่ต้องกลัวอ้วน โดยในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 52กิโลแคลอรี่ (เท่าๆกับสีแดง) แต่แอปเปิ้ลสีเขียวจะมีใยอาหารที่สูงกว่าแอปเปิ้ลทุกๆชนิด

แอปเปิ้ลสีแดงเข้ม หากต้องการชะลอวัย ต้องทานแอปเปิ้ลเพื่อที่จะให้มาช่วยในเรื่องของการชะลอวัย ควรเลือกแอปเปิ้ลที่มีสีแดงเข้ม(หรือสีชมพูก็ได้) เพราะเป็นชนิดที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระในประมาณที่สูงที่สุด และมีวิตามินซีสูงถึง 1500 มิลลิกรัม ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างคลอลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวของเราดูเต่งตึง ช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ นอกจากนี้แอปเปิ้ลสีแดงยังช่วยในเรื่องความจำ

แอปเปิ้ลสีชมพู (อมแดง) มีประโยชน์ไม่แพ้แอปเปิ้ลสีแดงเลย เพราะมีปริมาณของวิตามินซีถึง 1 ใน 4 ของปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน ซึ่งวิตามินซีนี้จะมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการอักเสบ ลดริ้วรอยแห่งวัย ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน ช่วยทำให้ผนังของหลอดเลือดฝอยแข็งแรงมากขึ้น และยังป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วย

แอปเปิลสีเหลือง ซึ่งเป็นสีสุดท้าย ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้เห็นมากนัก แต่หากมีโอกาสได้เจอก็อย่าลืมซื้อมารับประทาน ช่วยเรื่องการล้างสารพิษ การล้างสารพิษนั้น แนะนำให้ทานแอปเปิ้ลสีเหลือง(หากยากตามท้องตลาด) เพราะน้องจากจะมีเส้นใยที่สูงตามคุณสมบัติของผลไม้ชนิดนี้แล้ว มีการศึกษาพบว่าแอบเปิ้ลชนิดนี้ช่วยล้างสารพิษจากตับได้ บำรุงสายตา หากต้องการทานแอปเปิ้ลเพื่อบำรุงสายตา ก็ควรเลือกทานสีเหลืองเพราะมีสารที่ช่วยบำรุงสายตาสูงกว่าชนิดอื่น มีการศึกษาพบว่าการทานผลไม้ชนิดนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจก

การทานแอปเปิ้ลให้ถูกวิธี

ไม่ควรรับประทานแอปเปิ้ลเกินวันละ 4 ผล เพราะอาจจะทำให้เกิดการรับสารอาหารมากเกินไป แอปเปิ้ลนั้นควรทานทั้งเปลือก แต่ควรเลือกที่ปลอดสารพิษด้วย เพราะประโยชน์หลายๆอย่างของผลไม้ชนิดนี้นั้นอยู่ที่เปลือก และที่สำคัญไม่ควรคั้นดื่มเฉพาะน้ำ เพราะเราจะได้แต่น้ำตาลและประโยชน์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากอยากทานน้ำ ควรใช้การปั่นทั้งเปลือก เพราะให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ในเปลือกและเนื้อของผลไม้ชนิดนั้นมีเส้นใยที่เรียกว่า “เพคติน” ซึ่งมีคุณสมบัติในการพองตัวได้ เป็นตัวช่วยเพิ่มกากใยในระบบย่อยอาหาร และลดปริมาณไขมันที่จะเข้าสู้กระแสเลือด


ที่มา : https://fruitsfit45.wixsite.com/fruitsfit/blog


7 views0 comments
bottom of page